Conversation


Conversation


1. (4) Please keep in touch.
1. Forget me not. หมายถึง อย่าลืมฉัน
2. Have a good trip. หมายถึง เดินทางโดยปลอดภัยและสนุกนะ
3. See you later. หมายถึง แล้วเจอกัน
4. Please keep in touch. หมายถึง กรุณาติดต่อมานะ
คุณกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อนของคุณมาส่งที่สนามบิน ก่อนขึ้นเครื่อง คุณพูดว่า “กรุณาติดต่อ
มานะ” ในที่นี้หมายถึง การร้องขอให้ยังคงความสัมพันธ์โดยการติดต่อสื่อสารกันเหมือนเดิม นิยมใช้เมื่อต้อง
จากกันไปไกล
2. (2) Could you tell me how to get to the Science Museum ?
1. I must go to the Science Museum now. หมายถึง ฉันต้องไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เดี๋ยวนี้
2. Could you tell me how to get to the Science Museum ? หมายถึง คุณจะกรุณาบอกทางไปพิพิธภัณฑ์
วิทยาศาสตร์กับฉันได้ไหม
3. I beg you pardon ! I want to visit the Science Museum. หมายถึง อะไรนะ ฉันต้องการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์
วิทยาศาสตร์
4. Please take me to the Science Museum, will you ? หมายถึง กรุณาพาฉันไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ได้ไหม
นักเรียนไทยคนหนึ่งต้องการไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ลอนดอน แต่เขาไม่รู้ทาง เขาจึงถามตำรวจว่า
คุณจะกรุณาบอกทางไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์กับผมได้ไหม
3. (1) Um….some of them are quite challenging.
1. Um….some of them are quite challenging. หมายถึง เอ่อ...บางรายการก็น่าสนุกท้าทาย
2. Thank goodness ! There used to be a lot of game shows. หมายถึง ขอบคุณสวรรค์...เมื่อก่อนเคยมีเกมโชว์
ดีๆ มากมาย
3. No wonder they get a lot of sponsors. หมายถึง ไม่แปลกใจเลยที่รายการเหล่านี้มีสปอนเซอร์มากมาย
4. Of course, I wish joined a game show. หมายถึง แน่นอน ฉันอยากจะไปร่วมเกมโชว์สักเกมส์
ครูภาษาอังกฤษของคุณถามความเห็นของคุณเกี่ยวกับรายการเกมโชว์ในทีวีในปัจจุบัน คุณตอบว่า “เอ่อ...บาง
รายการก็น่าสนุกท้าทาย
4. (3) I’m afraid I have to go.
1. Thanks for coming. See you. หมายถึง ขอบคุณที่แวะมา แล้วเจอกัน
2. It’s late now. Good night. หมายถึง มันดึกแล้ว ลาก่อน
3. I’m afraid I have to go. หมายถึง ฉันเกรงว่าจะต้องไปแล้ว
4. I’m sorry I can leave now. หมายถึง ขอโทษ ฉันไปได้แล้ว
เพื่อนของคุณชวนคุณมาทานอาหารเย็นที่บ้านแล้วคุณต้องกลับเร็ว คุณพูดว่า “ฉันเกรงว่าจะต้องไปแล้ว” จึง
จะเหมาะสมที่สุด
5. (4) So sorry. How clumsy I am !
1. Can’t you get a new pair ? หมายถึง คุณซื้อคู่ใหม่ได้ไหม?
2. How much should I pay you ? หมายถึง ฉันควรจะจ่ายเงินให้คุณเท่าไหร่?
3. Pardon me. I hope you don’t mind หมายถึง ขอโทษ ฉันหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจ (ใช้เมื่อต้องการให้ผู้อื่นทำ
อะไรให้เราอีกครั้ง)
4. So sorry. How clumsy I am ! หมายถึง ขอโทษจริงๆ ฉันซุ่มซ่ามมากเลย
คุณชนแว่นกันแดดของเพื่อนหล่นจากโต๊ะและหัก คุณพูดกับเพื่อนว่า “ขอโทษจริงๆ ฉันซุ่มซ่ามมากเลย
6. (3) walking
ทุกคืนยามจะล็อคประตูเป็นอันดับแรก แล้วก็เปิดไฟและเดินไปรอบๆ โรงงาน” จะต้องเปลี่ยนเป็น “Walk”
ซึ่งเป็น present simple ให้สอดคล้องกับกริยาตัวอื่น
7. (2) twelve-years-old girl
เลขานุการบอกให้เด็กหญิงอายุสิบสองปีรอแม่ของเธอในห้องรับแขก” จะต้องเปลี่ยนเป็น “Twelve-year-old girl”
8. (3) will transfer
กานดาเป็นพนักงานที่ทุกคนต่างก็คิดว่า (เธอจะถูกย้ายไปอยู่สำนักงานข้ามชาติใหม่ในฮ่องกง” ในประโยค
ความซ้อนนี้ ไม่ต้องใช้ “she” เพราะแทนด้วย “who” แล้ว
9. (1) more hardly
ยิ่งพ่อของเขาพยายามบังคับให้เขาเรียนมากเท่าไหร่ จิมมี่ก็ยิ่งเกียจคร้านมากขึ้นเท่านั้น” คำว่า “Hardly” เป็น
adverb หมายถึง “แทบจะไม่” แต่คำว่า “hard” เป็นได้ทั้ง adverb และ adjective หมายถึง “หนัก / อย่างหนัก
ในข้อนี้ต้องเปลี่ยนเป็น “The harder”
10. (2) attending
ฉันควรจะเข้าร่วมสัมมนาที่ภูเก็ตเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่โปรแกรมถูกยกเลิกเนื่องจากน้ำท่วม” คำว่า
“Supposed” ควรตามด้วย “ to” ดังนั้น จะต้องเปลี่ยนเป็น “to attend”
11. (1) waited on us
ผู้ชายที่รอพวกเราอยู่ในร้านอาหารที่พวกเราไปเมื่อวานเป็นหนึ่งในคนที่เชื่องช้าที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา” คำว่า
“Wait” ต้องตามด้วย “for” ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนเป็น “waited for us”
12. (1) either
พวกเรากำลังวางแผนไปเที่ยวช่วงวันหยุดกับครอบครัวไม่ที่ระยองก็เป็นที่หัวหินในฤดูร้อนที่จะมาถึงนี้” คำ
ว่า “either” วางอยู่ผิดที่ทำให้ความหมายเปลี่ยนได้ ที่ถูกต้องคือ
“We are planning to spend our vacation “either” in Rayong or in Hua Hin…”
13. (4) immediate
สับสนกับคำถามที่คณะกรรมการถาม เธอไม่สามารถตอบได้ทันที” คำว่า “ทันที” ในที่นี้เป็น Adverb จึง
ควรเปลี่ยนเป็น “immediately”
14. (2) complicate
ชีวิตจะยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเธอจบจากโรงเรียนไปแล้ว” คำว่า “Become” ในที่นี้ควรตามด้วย
“adjective” จึงควรเปลี่ยนเป็น “complicated”
15. (4) too
นิภานอนหลับไม่สนิทเพราะเสียงฟ้าร้อง และน้องชายของเธอก็นอนไม่หลับเช่นกัน” ควรเปลี่ยนเป็นคำว่า
“either”
16. (3) what
ธิดาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเพียงคนเดียวที่ได้เห็นผู้สมัคร” ควรเปลี่ยนเป็นคำว่า “what”
17. (3) look
พวกเราหวังว่าจะได้ย้ายบ้านเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ได้เริ่มมองหาบ้านใหม่เลย” คำว่า “Start” ตามได้ด้วยสอง
กรณีคือ “ to look” หรือ “looking” เท่านั้น
18. (2) nothing
ไม่มีใครพูดอะไรเลยนับแต่นั้นมา อย่างไรก็ตาม ฉันเชื่อว่าความจริงจะต้องเปิดเผยออกมาในไม่ช้า” จะต้อง
เปลี่ยนเป็นคำว่า “anything” เมื่ออยู่ในรูปปฏิเสธ
19. (2) are becoming
นอกเหนือจากการเดินป่าแล้ว การขี่จักรยานก็กำลังเป็นกีฬาที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นไทย” คำว่า “Cycling” เป็น
เอกพจน์ กริยาจึงควรเป็น “is becoming”
20. (4) the less expensive
จอห์นซื้อกล้องถ่ายรูปที่เบาที่สุด ผลิตออกมาใหม่ล่าสุด และราคาถูกที่สุดในสิงคโปร์ให้กับตัวเอง” การทำ
เป็นขั้นสูงสุดต้องเปลี่ยนเป็น “The least expensive”__

Extract 4
 

Genetics plays a big role in the way our skin develops, determining its color,
  พันธุกรรมแสดงบทบาทที่สำคัญในแบบการพัฒนาผิวหนังของเรา กำหนด
pore concentration, thickness, even the number of veins and nerves situated in its
 ความเข้มข้นรูขุมขน ความหนา แม้แต่จำนวนของเส้นเลือดและระบบประสาทถูกแสดงใน
deepest layer.  Yet your skin’s well-being not only depends on a really efficient,
 เนื้อเยื่อชั้นที่ลึกที่สุด แต่สุขภาพดีของผิวหนัง ไม่เพียงแต่พึ่งพา ประสิทธิภาพดีเยี่ยมจริงๆ
scientific skincare routing, but on a healthy lifestyle too.
 แนวทางการดูแลผิวตามวิทยาศาสตร์ แต่ยังต้องลักษณะชีวิตที่ดีด้วย
5 Getting enough sleep is important, for example, because this is the time
  ยกตัวอย่าง การนอนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่า นี่คือเป็นเวลา
when skin works especially hard at repairing itself.  Lack of it leaves skin looking
 เมื่อผิวหนังทำงานหนักโดยเฉพาะที่ซ่อมแซมตัวเอง การขาดการนอนทิ้งไว้ผิวที่ดู
dull.  If you’re suffering from insomnia, the chances are that stress is a significant
 ไม่มีสีสรร ถ้าคุณกำลังป่วยจาก โรคนอนไม่หลับ โอกาสเป็นความเครียดเป็นสิ่งสำคัญ
factor.  Whereas happiness makes skin glow, stress makes skin show the worst side
 ปัจจัย  ขณะที่มีความสุขสร้างผิดสว่าง แต่ความเครียดสร้างผิวที่แสดงออกด้านเลวร้ายที่สุด
of its nature.  Spots, pimples, eczema, blotchiness and flakiness: these are just
 ของธรรมชาติผิว  จุดด่างดำ,สิว, ผื่น, ตุ่มต่าง ๆ และ สะเก็ดต่าง ๆ เป็น สิ่งเหล่านี้เพียงแค่
10 some of the stress symptoms you may see in your skin.
 อาการความเครียดบางอย่างคุณอาจจะเห็นในผิวหนังของคุณ
Luckily, one of the best ways of reducing stress is also very beneficial to
  โชคดี หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดของการลดความเครียด เป็นประโยชน์มากที่สุดไปยัง
skin: getting more exercise.  Both aerobic exercise such as tennis, dancing, and
 ผิวหนัง: การออกกำลังมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกายแบบ อโรบิค เช่น เทนนิส เต้นรำ และ
jogging, and anaerobic exercise like stretching and yoga, are highly beneficial,
 การวิ่งและการออกกำลังกาย แอนอโรบิค เช่น การยืดต่างๆ และโยคะ มีประโยชน์สูง
because they improve circulation.  And it is blood that brings the vitamins and
 เพราะว่าทั้ง อโรบิคและแอนอโรบิคปรับปรุงการไหลเวียน และ
15 nutrients necessary for cell metabolism to the skin.  For your general well-being,
 สารอาหารที่สำคัญเพื่อการเผาผลาญในเซลไปยังผิวหนังเพื่อสุขภาพดีทั่วไปของคุณ
it is always best to mix the two types of exercise.
 เป็นสิ่งดีที่สุดเสมอไปที่จะผสมการออกกำลังกายทั้งสองแบบ
If you are not eating healthily, it certainly becomes evident swiftly in your skin,
  ถ้าคุณไม่กินอย่างมีสุขภาพแน่นอนที่สุด จะเริ่มต้นเห็นชัดรวดเร็วในผิวหนังของคุณ
which loses its glow and shine.  The problem can be as simple as a lack of vitamin
 ที่จะเริ่มสูญเสียความสว่างและประกาย ปัญหาสามารถเป็นธรรมดาเหมือนการขาดวิตามิน
C, which plays a vital role in collagen formation and cell repair.  Although vitamin C
 ซี ที่แสดงบทบาทที่เรื่องของการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเซล  ถึงแม้ว่าวิตามิน C
20 is found in fresh fruit like melon, oranges, and even in tomatoes, the body cannot
 ถูกพบในผลไม้สดเช่น แตงโม ส้ม และแม้แต่ในมะเขือเทศ ร่างกายไม่สามารถ
store it.  Therefore, it needs regular supplies.  Other important vitamins are the B
 เก็บวิตามินซี ดังนั้น วิตามินซีจำเป็นต่อการเสริมเป็นปกติ วิตามินที่สำคัญอื่นคือกลุ่ม B
group, especially B2 and B12 and vitamin E, along with zinc.
 กลุ่ม B โดยเฉพาะ บีสองและบีสิบสอง และวิตามินอี คู่กับ แร่สังกะสี
But vitamins and mineral supplements are not the complete answer.  The best
  แต่วิตามินและอาหารเสริมเกลือแร่ต่าง ๆ ไม่ใช่คำตอบที่ครบสมบูรณ์ ดีที่สุด
way to obtain a balanced mix of vitamins and minerals is to eat the freshest, most
 วิธีที่จะหาการผสมที่สมดุลของวิตามินและเกลือแร่เป็นการกิน สดที่สุด ที่สุด
25 natural foods.  A diet rich in unsaturated fats such as olive oil rather than butter,
 อาหารธรรมชาติที่สุด  อาหารอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวได้แก่ น้ำมันมะกอกมากกว่าเนย
unprocessed fiber, raw fruit and vegetables and low-fat protein such as fish and
 ใยอาหารไม่ผ่านการฟอกต่าง ๆ ผลไม้ดิบ และ พืชผักและโปรตีนไขมันต่ำเช่น ปลา และ
chicken will provide everything your skin needs.  If you can cut out caffeine, smoking
 ไก่จะให้ทุกสิ่งที่ผิวของคุณจำเป็น ถ้าคุณตัดคาเฟอิน การสูบบุหรี่
 and alcohol, so much the better. และสุรา จะดีมากยิ่งไปกว่าเดิม
Do not forget to drink as much water as you can each day: six glasses at least.
  ไม่ลืมที่จะดื่มน้ำมากเท่ากับคุณสามารถแต่ละวัน คือ หกแก้วเป็นอย่างน้อย
30 It helps every organ in your body function better, aiding digestion, circulation
 ช่วยทุกๆ อวัยวะในร่างกายของคุณให้ทำงานดีขึ้น ช่วยการย่อย การไหลเวียน
and even excretion of toxins through the skin’s pores.
 และแม้แต่การขับของสารพิษต่าง ๆ ผ่านรูขุมขน
 (aerobic การออกกำลังกายเน้นการหัวใจทำงาน anaerobic การออกกำลังกายที่ใช้ในการลดน้ำหนักเนื่องจากร่ายกายเติมออกซิเจนไม่ทันทำให้ต้องเพิ่มการเผาผลาญจากGlycogen

1.The best title for this extract is __________.
 ชื่อเรื่องดีที่สุดเพื่อข้อความตัดมา คือ ________
   1.Keeping Skin Shiny  การรักษาผิวหนังให้แวววาว
   2. Good Skin from Within  ผิวหนังดีได้จากภายใน
   3. How Your Skin Works  ผิวหนังของคุณทำงานอย่างไร
   4. Healthy Food, Healthy Look  อาหารดี ดูดี

2.The main ides of the extract is __________.
 ใจความสำคัญหลักของข้อความตัดต่อคือ _________
   1. genetics is necessary for our skin’s well-being
  พันธุกรรมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพของผิวหนังของเรา
   2. genetics plays a big role in the way our skin develops
  พันธุกรรมแสดงบทบาทในแนวทางพัฒนาผิวหนังของเรา
   3. a healthy lifestyle is really important to our skin’s well-being
  ลักษณะชีวิตสุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญจริงเพื่อสุขภาพของผิวหนังของเรา
   4. our skin’s well-being depends on a really efficient scientific skincare routine
  สุขภาพผิวหนังของเราพึ่งพาการดูแลทางวิทยาศาสตร์ประสิทธิภาพจริงๆ ประจำวัน

3.__________ is not good for the skin.
 __________ เป็นสิ่งไม่ดี สำหรับผิวหนัง
   1.Collagen คอลลาเจน
   2.Vitamin C วิตามินซี
   3.Insomnia โรคนอนไม่หลับ
   4.Exercise การออกกำลังกาย
4.According to the extract, it is TRUE that __________.
 จากที่ข้อความที่ตัดมา เป็นเรื่องจริงที่ว่า ________
   1. skin works hard at night to repair itself
  ผิวหนังทำงานหนักตอนกลางคืนเพื่อซ่อมตัวเอง
   2. oversleeping may have bad effects on skin
  การนอนมากเกินไปอาจจะส่งผลร้ายต่อผิวหนัง
   3. the most important vitamins for skin are the B group
  วิตามินสำคัญที่สุดเพื่อผิวหนังคือกลุ่มบี
   4. aerobic exercise is the best way to improve the skin
  การออกกำลังแบบ แอโรบิค เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อพัฒนาผิวหนัง

5.Your skin loses its glow and shine swiftly if you __________.
 ผิวหนังสูญเสียความเปล่งประกายและเงางามอย่างรวดเร็วถ้าคุณ ________
   1.exercise regularly  ออกกำลังตามปกติ
   2.reduce your stress level  ลดความเครียดให้เป็นปกติ
   3.consume alcohol and caffeine  บริโภคสุราและคาแฟอิน
   4.have a healthy, balanced diet  รับประทานอาหารสมดุลห้าหมู่ และสุขภาพดี

6.The phrase “its nature” (line 9) refers to the nature of __________.
 วลี ธรรมชาติผิวอ้างอิงได้ว่า ธรรมชาติของ _________
   1.skin  ผิวหนัง
   2.stress  ความเครียด
   3.sleep  การนอน
   4.lifestyle  แนวทางชีวิต
7.The phrase “two types of exercise” (line 16) refers to __________.
 วลี สองชนิดของการออกกำลังอ้างอิงถึง __________
   1.stretching and yoga  การยืดเส้นและโยคะ
   2.aerobic exercise and dancing การออกกำลังแบบแอโรบิคและการเต้นรำ
   3.jogging and anaerobic exercise การวิ่งและการออกกำลังแบบแอนแอโรบิค
   4.aerobic and anaerobic exercise การออกกำลังแอโรบิคและการออกกำลังแอนอโรบิค
8.The word “it” (line 21) refers to __________.
 คำศัพท์ วิตามินซี อ้างอิงถึง
   1.The body  ร่างกาย    2. 2.fresh fruit  ผลไม้สด
   3.Vitamin C  วิตามินซี   4.cell repair  การซ่อมแซมเซล
9.According to the last paragraph, water helps the body to do all of the following 
EXCEPT __________.
 จากย่อหน้าสุดท้าย น้ำช่วยให้ร่างกายทำได้ทั้งหมดข้างล่างยกเว้น _______
   1.digest food ย่อยอาหาร
   2.circulate blood ไหลเวียนโลหิต
   3.eliminate toxins  ขจัดสารพิษ
   4.overcome insomnia  เอาชนะโรคนอนไม่หลับ
10.The extract is primarily intended for __________.
 บทคัดย่อมีเจตนาตั้งในพื้นฐานเพื่อ __________
   1. people trying to live longer
  คนที่พยายามจะใช้ชีวิตให้ยาวนาน
   2. women desiring to lose weight
  ผู้หญิงปรารถนาลดน้ำหนัก
   3. people wanting to have youthful skin
  คนที่ต้องการจะมีผิวอ่อนเยาว์
   4. women preparing to enter a beauty contest
  ผู้หญิงที่เตรียมพร้อมที่จะเข้าประกวดความงาม
เฉลย



1. 2    2. 3    3. 3    4. 1    5. 3 
6. 1    7. 4    8. 1   9. 4    10.3
ที่มา http://blog.eduzones.com/kamonenglish/31525


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น